วินโดวส์ใหม่พร้อมรบบน ARM
วินโดวส์ใหม่พร้อมรบบน ARM

** หนึ่งในแท็บเล็ตที่มาพร้อมชิป ARM บนระบบปฏิบัติการ Windows CE เป็นแท็บเล็ตแบรนด์เกาหลีหน้าจอ 7 และ 10 นิ้วซึ่งวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดมีข่าวลือว่า ไมโครซอฟท์กำลังจะเปิดตัววินโดวส์เวอร์ชันใหม่ที่สามารถทำงานครบถ้วนบนอุปกรณ์ชิป ARM ได้ดีกว่าวินโดวส์เวอร์ชันอื่นที่เคยมีมา **        สื่ออเมริกันอ้างแหล่งข่าววงใน ระบุว่าไมโครซอฟท์ (Microsoft) กำลังเตรียมโชว์ตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันใหม่ที่สามารถทำงานบนอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM ในงาน CES 2011 ช่วงเดือนมกราคม 2011 ระบุว่าจะเป็นวินโดวส์เวอร์ชันเต็มที่สามารถทำงานได้ครบเครื่อง ถือเป็นสัญญาณที่แสดงว่าแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนประหยัดพลังงานซึ่งใช้ชิป ARM จะสามารถรองรับสาวกไมโครซอฟท์ได้ดีกว่าเดิม              รายงานจากบลูมเบิร์กระบุว่า วินโดวส์เวอร์ชันใหม่จะสามารถทำงานบนชิปสถาปัตยกรรม x86 ได้ปกติ แต่จะพัฒนาการจัดการพลังงานเพื่อให้สามารถทำงานบนนานาอุปกรณ์พกพาที่ใช้ชิป ARM ได้ด้วย ขณะที่รายงานจากวอลล์ สตรีทเจอร์นัลระบุว่า วินโดวส์เวอร์ชันใหม่จะยังไม่พร้อมวางตลาดในช่วง 2 ปีนี้ ด้านซีเน็ตรายงานว่า รายละเอียดของวินโดวส์ใหม่จะถูกเปิดตัวในงานประชุมสื่อมวลชน ในช่วงก่อนหน้าการเปิดงานบนเวที CES มหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา              ข้อมูลทั้งหมดยังถือเป็นข่าวลือในขณะนี้ เนื่องจากไมโครซอฟท์ยังไม่ส่งตัวแทนออกมายืนยันหรือปฏิเสธรายงานที่เกิดขึ้น              ข่าวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากข่าวลือว่าไมโครซอฟท์จะแย้มคุณสมบัติใหม่ของ Windows 8 บนเวทีสัมมนาในงาน CES (กำหนดการคือวันที่ 5 มกราคม 2011) โดยนิวยอร์กไทม์เป็นรายเดียวที่รายงานว่า ซีอีโอไมโครซอฟท์จะขึ้นสาธิตแท็บเล็ตฝีมือการผลิตของซัมซุง ซึ่งมาพร้อมคีย์บอร์ดสไลด์ข้าง              นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ของไมโครซอฟท์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาวินโดวส์เวอร์ชันพิเศษที่ทำงานบนชิป ARM แล้วในชื่อ Windows CE โดยเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับติดตั้งในระบบฝังตัวหรือ embedded system ซึ่งสามารถรองรับชิปสถาปัตยกรรม x86 ได้ นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังพัฒนา Windows Embedded Compact 7 สำหรับติดตั้งในอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดไม่มีคุณสมบัติเต็มรูปแบบเทียบเท่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์บนเดสก์ท็อป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์เชื่อว่าวินโดวส์เวอร์ชันใหม่จะทำได้              ARM เป็นชื่อเรียกสถาปัตยกรรมหน่วยประมวลผลที่นิยมใช้ในอุปกรณ์พกพาทั้งสมาร์ทโฟนและเนวิเกเตอร์ เนื่องจากความโดดเด่นเรื่องการประหยัดพลังงาน ชิป ARM จึงมีโครงการลงสู่ตลาดแท็บเล็ตโดยหลากหลายค่ายผู้ผลิตพีซีทันทีที่โลกเข้าสู่ยุคที่กระแสแท็บเล็ตมาแรง ซึ่งที่ผ่านมา ระบบปฏิบัติการคู่แข่งไมโครซอฟท์ล้วนให้ความสนใจในการพัฒนาความสามารถในการรองรับชิป ARM ทั้งหมดต้องรอลุ้นในงาน CES 2011 เดือนมกราคม 2011       

24 Dec 2553 09:10 ผู้ชม: 1768
สมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตแรง คาด 2 ปียอดส่งแซงพีซี
สมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตแรง คาด 2 ปียอดส่งแซงพีซี

ฟันธงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะเป็นอุปกรณ์ที่มาแรงสุดขีดในช่วง 2 ปีข้างหน้า การสำรวจล่าสุดพบยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรวมกันจะเกินหน้ายอดจัดส่งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ในปี 2012 ถือเป็นสัญญาณที่ชี้ว่ายุคแห่งพีซีกำลังจะถึงช่วงขาลง ขณะที่บุคลากรในโลกธุรกิจจะให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่มาพร้อม"แอปฯ"มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง               บริษัท วิจัยไอดีซี (IDC) คาดการณ์ว่าตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันได้เอง จะมีจำนวนรวม 377 ล้านเครื่องในปี 2011 ก่อนที่ยอดจัดส่งจะทะลุไปที่ 462 ล้านเครื่องในปี 2012               ตัวเลข 462 ล้านเครื่องนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าตลาดพีซี ที่เชื่อว่าจะมียอดจัดส่ง 402 ล้านเครื่องในปี 2011 และ 448 ล้านเครื่องในปี 2012 ถือเป็นการแซงหน้าครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกไอที              แม้ตัวเลขจากไอดีซีจะชี้ว่าโลกพีซีจะไม่ใช่โลกที่เติบโตเร็วมากที่สุดอีกต่อไปในอนาคต แต่สิ่งที่ชัดเจนคือตลาดพีซีก็จะยังเติบโตต่อไป โดยเป็นการเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสเท่านั้น จุดนี้แฟรงค์ เจนส์ นักวิเคราะห์ไอดีซีมองว่านี่คือสัญญาณที่แปลว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่ได้มาแทนที่คอมพิวเตอร์พีซี แต่จะเป็นส่วนขยายตลาดที่เพิ่มขึ้น              สำหรับการใช้จ่ายรวมในตลาดไอทีโลก ไอดีซีคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 5.7% มูลค่าเบ็ดเสร็จที่ 1,600 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2011 โดยเฉพาะปี 2010 ไอดีซีคาดว่ายอดจัดส่งสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะแตะระดับ 284 ล้านเครื่อง ต่ำกว่ายอดจัดส่งพีซีที่มีจำนวน 356 ล้านเครื่อง              ** ระบบคลาวด์โตต่อเนื่อง **              ตลาดระบบการประมวลผลกลุ่มเมฆหรือ Cloud Computing เชื่อว่าจะเป็นอีกเทคโนโลยีที่จะขยายตัวต่อเนื่อง รายงานจากไอดีซีพบว่า บริการ Public Cloud หรือบริการที่เปิดกว้างให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกสามารถฝากไฟล์และแบ่งปันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เชื่อว่าจะเติบโตขึ้นอีก 30% ในปี 2011 คิดเป็นมูลค่าตลาดมากกว่า 28,700 ล้านเหรียญทั่วโลก              สำหรับระบบ Private Cloud หรือบริการที่อนุญาตให้บุคคลในองค์กรสามารถแบ่งปันไฟล์ผ่านเครือข่ายองค์กรได้ ไอดีซีเชื่อว่าจะมีมูลค่าตลาดราว 13,000 ล้านเหรียญในปี 2011 คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 33%

13 Dec 2553 16:22 ผู้ชม: 2446
ไซแมนเทค ปรับโครงสร้างคู่ค้า สร้างโมเดลสเปเชียลิสต์โซลูชัน
ไซแมนเทค ปรับโครงสร้างคู่ค้า สร้างโมเดลสเปเชียลิสต์โซลูชัน

ไซแมนเทคปรับโครงสร้างคู่ค้า เสริมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แปรสภาพเป็นสเปเชียลิสต์โซลูชัน ให้เป็นผู้นำตลาดต่อไป เชื่อมีนาคม 2554 สามารถยกระดับพาร์ทเนอร์ให้เสร็จเรียบร้อย              นายประมุท ศรีวิชียร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้ประกาศปรับโปรแกรมสำหรับคู้ค้าของไซแมนแทคครั้งสำคัญไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา วันนี้ ทางบริษัทได้มีการเปิดตัวโปรแกรมสำหรับคู่ค้าตัวใหม่ที่เรีกยว่า โปรแกรมเพิ่มศักยภาพคู่ค้า (Enhanced Partner Program)              โดยกำหนดให้คู่ค่าในส่วนที่ทำตลาดองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่โฟกัสในแต่ละโซลูชันเพิ่มขึ้นมา ซึ่งถือเป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คู่ค้าสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นในสายตาลูกค้า รวมถึงโอกาสทางด้านรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น              “โปรแกรมนี้ ดูเหมือนจะเป็นการเพิ่มความยุ่งยากให้กับคู่ค้าของบริษัท ที่จะต้องโฟกัสในแต่ละเรื่อง ทำให้สามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องความยุ่งยากและซับซ้อนทางธุรกิจที่ต้องการผู้เขี่ยวชาญมาคอยให้บริการ ในระยะยาวจะเป็นผลดีต่อทั้งคู่ค้าและลูกค้าที่ใช้บริการ”              เดิมโครงสร้างการทำตลาดคู่ค้าของไซแมนเทคก่อนที่จะมีโปรแกรมใหม่นี้ แบ่งเป็นกลุ่มพาร์ทเนอร์ทั่วไปที่มีอยู่ 600 ราย กับกลุ่มคู่ค่าทางด้านตลาดเอนเตอร์ไพรซ์ ซึ่งแบ่งย่อยเป็นระดับซิลเวอร์ โกลด์และแพลตินัม ที่มีอยู่ประมาณ 60 ราย แต่หลังจากมีโปรแกรมใหม่นี้ออกมาลักษณะการแบ่งยังคงเหมือนดิม โดยมีที่จะเป็นคู่ค้าของไซแมนเทคต่อจะต้องมีการเพิ่มในส่วนของผู้เชี่ยญชาญในแต่ละด้านเพิ่มขึ้น              นายประมุทกล่าวว่า โปรแกรมนี้จะเริ่มใช้ในเดือนมีนาคม 2554 เวลานี้มีคู่ค่าในส่วนพาร์ทเนอร์ทั่วไปที่ปรับเข้ากับโปรแกรมใหม่นี้แล้วประมาณ 200 ราย ส่วนคู่ค้าในส่วนตลาดเอนเตอร์ไพรซ์นั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะมีกี่รายเนื่องจากมีเงื่อนไขในการเป็นคู่ค่าในแต่ละระดับแตกต่างกัน              “ปัจจุบัน ไซแมนเทคถือเป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์ทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยและซอฟต์แวร์บริหารจัดการข้อมูล มีรายได้จากคู่ค้าในตลาดเอนเตอร์ไพรซ์มากกว่า 50% โดยมีอัตราการเติบโตอยุ่ระดับสองดิจิ แต่หลังจากมีการใช้โปรแกรมคู่ค้าใหม่นี้แล้วจะทำให้รายได้เติบโตเพิ่มจากปัจจุบันอย่างแน่นอน รวมถึงการยังคงเป็นผู้นำในตลาดต่อไปอีกด้วย”       

23 Nov 2553 11:50 ผู้ชม: 2844
เปิดชิมลางเบราว์เซอร์ใหม่
เปิดชิมลางเบราว์เซอร์ใหม่

โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์น้องใหม่ล่าสุด "RockMelt" เปิดให้ผู้ใช้บางส่วนเริ่มทดลองใช้งานอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังจำกัดวงเฉพาะผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์และแมคอินทอช รอเวลาพิสูจน์ตัวว่าสามารถเป็น "Facebook browser" หรือเบราว์เซอร์ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเล่นเครือข่ายสังคมโดยเฉพาะ              RockMelt เป็นผลงานล่าสุดของ Marc Andreessen หัวหน้าทีมสร้างเบราว์เซอร์ชื่อดังในอดีตอย่าง Netscape เหตุที่ RockMelt ได้ชื่อเล่นว่าเป็น Facebook browser คือ Facebook เป็นบริการเครือข่ายสังคมเดียวในขณะนี้ที่สามารถฝังตัวใน RockMelt ได้ดีที่สุด ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เครือข่ายสังคมได้ทันทีเมื่อเปิดโปรแกรม และรองรับพฤติกรรมการใช้งานเครือข่ายสังคมได้รวดเร็วขึ้น โดยแผนการในอนาคตคือการปรับปรุงเพื่อให้สามารถรองรับบริการเครือข่ายสังคมอื่นต่อไป              ผู้สนใจทดสอบจะต้องลงทะเบียนกับ Rockmelt เพื่อรับลิงก์ดาวน์โหลดโปรแกรม เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าการทดสอบเบราว์เซอร์ RockMelt จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่คาดว่าการให้บริการจริงจะเริ่มขึ้นในปี 2011 บนกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ใช้เฟสบุ๊กจำนวนมากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก ที่มีโอกาสสูงมากในการเปลี่ยนใจหันมาใช้เบราว์เซอร์น้องใหม่นี้ในอนาคต              ความสามารถสำคัญของ RockMelt คือการเชื่อมต่อกับบริการเครือข่ายสังคมเช่น Twitter และ RSS โดยหลังการลงชื่อใช้งาน Facebook Connect ผู้ใช้เบราว์เซอร์ RockMelt จะเห็นสัญลักษณ์ (ไอคอน) ของเพื่อนและบริการเครือข่ายสังคมต่างๆ ไว้ที่แถบเครื่องมือด้านซ้ายของหน้าจอ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้เรียกดูข้อมูลจากเครือข่ายสังคมได้ในไม่กี่คลิก ขณะที่ด้านขวาของจอจะปรากฏรายการชื่อเครือข่ายสังคมต่างค่าย นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาข้อมูลในเครือข่ายสังคมได้เร็วขึ้น มีปุ่มแบ่งปันข้อมูลไว้ที่ด้านบนของแถบเครื่องมือ แถมยังมีความสามารถในการทำงานหลายหน้าต่างพร้อมกันด้วย              Facebook Connect คือเครื่องมือที่เฟสบุ๊กเปิดกว้างให้บริษัทรายอื่นนำไปใช้เพื่อผูกบริการเข้ากับชื่อบัญชีผู้ใช้เฟสบุ๊ก เช่น เว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ สามารถเปิดให้ผู้ใช้ที่เล่นเฟสบุ๊กในขณะนั้นสามารถลงชื่อใช้งานหรือ login เข้ามาซื้อสินค้าในเว็บไซต์ได้โดยใช้บัญชีเฟสบุ๊กเป็นตัวเชื่อมต่อ ทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้า กรณีของ Rockmelt การลงชื่อใน Facebook Connect จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊กได้บนเบราว์เซอร์ตลอดเวลา ซึ่งจุดนี้นักสังเกตการณ์มองว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามหลังความสะดวกทั้งมวล ก็คือการสร้างรายได้โฆษณามหาศาลให้บริการเครือข่ายสังคมในอนาคต              รายงานระบุว่าผู้สร้าง RockMelt ประกอบด้วยทีมงาน 30 คน ทำการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง 2 ปีบนเงินทุนกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐจากกลุ่มทุน Andreessen Horowitz รวมถึงนักลงทุนอิสระอย่าง Josh Kopelman แห่ง First Round Capital รวมถึงนักลงทุนชื่อก้องอย่าง Ron Conway       

10 Nov 2553 08:51 ผู้ชม: 2326
บลูทูธถอยไป WiFi Direct มาแล้ว!!
บลูทูธถอยไป WiFi Direct มาแล้ว!!

โลกต้องบันทึกว่าวันจันทร์ที่ 25 ต.ค. 53 คือวันแรกของการเริ่มต้นให้ใบรับรองมาตรฐานเทคโนโลยี "ไว-ไฟ ไดเรกต์ (WiFi Direct)" แก่ผู้ผลิตอุปกรณ์พกพา เทคโนโลยีไว-ไฟไดเรกต์นี้เองที่หลายคนคาดหวังว่าจะทำให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ดิจิตอลระหว่างกันในอนาคตเกิดขึ้นได้ง่ายดายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ฟันธงอีกไม่นาน โลกจะเข้าสู่กาลอวสานของเทคโนโลยีบลูทูธ ซึ่งผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกนิยมใช้ส่งไฟล์ข้อมูลหรือภาพระหว่างกันในขณะนี้               ไว-ไฟไดเรกต์เป็นเทคโนโลยีที่กลุ่มพันธมิตรไว-ไฟ (WiFi Alliance) พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีไว-ไฟดั้งเดิมเพื่อให้อุปกรณ์พกพาสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ไร้รอยต่อ และปลอดภัย ทั้งหมดนี้ทำให้ไว-ไฟไดเร็กต์ถูกตั้งชื่อว่าเป็นเพชฌฆาตบลูทูธ เพราะไว-ไฟไดเรกต์สามารถทำงานแทนบลูทูธได้ทุกประการ แถมยังสามารถรองรับแอปพลิเคชันและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า              รายงานระบุว่า หลังจากการให้ใบรับรองแก่ผู้ผลิต เชื่อว่าอุปกรณ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไว-ไฟไดเรกต์จะวางจำหน่ายได้ภายในปลายปี 2010 นี้              แม้ไว-ไฟไดเรกต์จะสร้างบนไว-ไฟดั้งเดิม แต่ไว-ไฟไดเรกต์กลับต้องการปัจจัยแวดล้อมในการทำงานต่างกัน ประการแรกคือไว-ไฟไดเรกต์ไม่ต้องการเครือข่ายหรือระบบกระจายสัญญาณไว-ไฟ เนื่องจากไว-ไฟไดเร็กต์จะทำให้อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกันได้แบบเครื่องต่อเครื่อง (peer-to-peer) ขณะเดียวกันจะทำให้ขั้นตอนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กผ่านสมาร์ทโฟน ทำได้ง่ายกว่ากระบวนการเชื่อมต่อปัจจุบันที่เรียกว่า adhoc เนื่องจากไว-ไฟไดเรกต์สามารถค้นหาอุปกรณ์อื่นในบริเวณรอบข้างโดยไม่ต้องเข้าร่วมเครือข่ายกัน แถมระบบยังสามารถแจ้งได้ว่าเครื่องปลายทางสามารถรับบริการใดได้บ้าง              จุดขายสำคัญของไว-ไฟไดเรกต์คือความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุด 54Mbps ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งไฟล์ภาพความละเอียดสูงไปยังเครื่องพิมพ์ หรือส่งไฟล์วิดีโอแบบ HD จากโทรศัพท์ไปยังเครื่องเพื่อนข้างเคียงได้อย่างลื่นไหล ที่สำคัญ ไว-ไฟไดเรกต์ยังมีรัศมีการทำงานที่ครอบคลุมกว้างกว่า มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส WPA2 (Wi-Fi Protected Access 2) สามารถจับคู่ได้มากกว่าหนึ่งอุปกรณ์ ทำให้ผู้ใช้สามารถจับคู่อุปกรณ์ที่สนับสนุน Wi-Fi Direct กับอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลายชิ้นพร้อมกัน              ในมุมของผู้บริโภค คาดว่าไว-ไฟไดเรกต์จะถูกใช้ในการแบ่งปันภาพและข้อมูลอื่นๆ ระหว่างเพื่อนและครอบครัว ทั้งข้อมูลขนาดใหญ่ ภาพถ่ายความละเอียดสูง หรือวิดีโอไฮเดฟจากกล้องดิจิตอล อุปกรณ์ด้านความบันเทิง และเครื่องพีซีในบ้าน ภาพจากอุปกรณ์พกพาเหล่านี้จะสามารถส่งไปแสดงยังจอคอมพิวเตอร์หรือทีวีในบ้านได้ รวมถึงการแสดงผลระบบสนทนาผ่านวิดีโอ การเล่นวิดีโอเกมส์ และการสนทนาผ่านระบบ IM              การเชื่อมต่อที่สะดวกขึ้นยังทำประโยชน์แก่องค์กรธุรกิจด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการทำงานนอกสถานที่ ขณะเดียวกันการเข้ารหัส WPA2 ก็ทำให้ผู้ใช้สามารถป้องกันไม่ให้มีการขโมยข้อมูลได้อย่างรัดกุม โดยก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยในไว-ไฟไดเร็กต์ เนื่องจากบลูทูธถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นช่องทางชั้นเยี่ยมให้เหล่านักเจาะระบบขโมยข้อมูลส่วนตัว ไว-ไฟไดเรกต์จึงถูกพัฒนาให้ทำงานบนเทคโนโลยี WPA2 และการเข้ารหัสข้อมูล AES ซึ่งจะทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการการเชื่อมต่อและตรวจสอบได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น              เบื้องต้น รายงานระบุว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในท้องตลาดปัจจุบันที่รองรับมาตรฐาน WiFi 802.11x จะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไว-ไฟไดเรกต์ทั้งสิ้น เท่ากับผู้ที่ซื้อเครื่องพิมพ์มาตรฐานไว-ไฟไดเรกต์ในช่วงปลายปีนี้ จะสามารถเชื่อมต่อกับพีซีเครื่องดังกล่าวได้แบบทันใจ              เหนืออื่นใด กลุ่มพันธมิตรไว-ไฟนั้นมีสมาชิกเป็นบริษัทไอทีรายใหญ่อย่างซิสโก้ และอินเทล การเกิดขึ้นของไว-ไฟไดเรกต์จึงถูกมองว่าจะมีบทบาทกับอุตสาหกรรมไฮเทคทั่วโลก ทำให้มีโอกาสสูง

28 Oct 2553 09:07 ผู้ชม: 2222
เอ็นวิเดีย ปล่อยรายละเอียด NVIDIA 3DTV Play เพิ่ม
เอ็นวิเดีย ปล่อยรายละเอียด NVIDIA 3DTV Play เพิ่ม

"เอ็นวิเดีย" (NVIDIA) ผู้ผลิตกราฟิกชิปในนาม "GeForce" ปล่อยรายละเอียดเพิ่มเติมของระบบ "NVIDIA 3DTV Play" ผู้ใช้ NVIDIA 3D Vision อัพเกรดฟรี              ฟิล อิสเลอร์ ผู้จัดการทั่วไปของ NVIDIA 3D Vision เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางเอ็นวิเดียเปิดประสบการณ์การเล่นเกมผ่านระบบ 3D Vision ไปเมื่อปีที่แล้ว จะเห็นว่าแนวโน้มของตลาด 3 มิติในปัจจุบันกำลังโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะทีวี 3 มิติ ที่ในปัจจุบันผู้ใช้จำนวนมากต่างหันมาให้ความสนใจ โดยจากการสำรวจของทางเอ็นวิเดียพบว่าในปัจจุบันกลุ่มเกมเมอร์และนักชมภาพยนตร์ต่างหันมาเลือกซื้อหรือเลือกรับชมมีเดียต่างๆ ผ่านทีวี 3 มิติมากกว่ารับชมจากจอมอนิเตอร์หรือจอแล็ปท็อปที่มีขนาดเล็ก              "สำหรับการรับชมภาพยนตร์ 3 มิติ หรือการเล่นเกม 3 มิติบนจอทีวี 3 มิติขนาดยักษ์จะช่วยสร้างประสบการณ์การรับชมที่น่าตื่นตา ทำให้ทางเอ็นวิเดียจำเป็นต้องจับกระแสปล่อยฟีเจอร์และซอฟท์แวร์ใหม่ในชื่อ "NVIDIA 3DTV Play" ไปเมื่อประมาณต้นปี ซึ่งในวันนี้ทางเอ็นวิเดียก็พร้อมเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม โดยระบบ "NVIDIA 3DTV Play" จะช่วยขยายระบบการรับชมภาพยนตร์และเกม 3 มิติจากคอมพิวเตอร์ที่ในปัจจุบันถูกจำกัดไว้เพียงแว่น 3D Vision จากเอ็นวิเดียให้สามารถแสดงผลบนจอทีวีและแว่น 3 มิติจากผู้ผลิตรายอื่นๆ ผ่านช่องเชื่อมต่อ HDMI 1.4 ได้ ซึ่งผู้ใช้ที่เป็นลูกค้า NVIDIA 3D Vision จะสามารถอัพเกรดได้ฟรีผ่านเว็บ http://www.nvidia.com/drivers ส่วนผู้ใช้ทั่วไปต้องเสียเงินซื้อซอฟท์แวร์ในราคาประมาณ 900-1,000 บาท              นอกจากนั้นทางเอ็นวิเดียยังได้มีแผนจับมือกับผู้พัฒนาแล็ปท็อปแบรนด์ต่างๆ อย่าง เอเซอร์ (Acer), อัสซุส (ASUS) เดลล์ (Dell) รวมถึงแบรนด์ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในกลุ่ม HTPC (Home Theater Personal Computer) อย่าง ASRock และ Zotac สำหรับการพัฒนาฟังก์ชั่นและติดตั้งซอฟท์แวร์ NVIDIA 3DTV Play ไว้ในแล็ปท็อปและ HTPC รุ่นที่จะวางจำหน่ายในอนาคตด้วย              สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของฟังก์ชั่นและซอฟท์แวร์ NVIDIA 3DTV Play จะรองรับทีวีและแว่นตา 3 มิติทุกรุ่นที่วางจำหน่ายในปัจจุบันผ่านสาย HDMI 1.4 ซึ่งจะผนวกการรองรับเสียงแบบ Bitstream ทั้ง Dolby TrueHD และ DTS-HD Master แบบ Lossless ไว้ด้วย โดยในส่วนของซอฟท์แวร์รับชมภาพยนตร์ 3 มิติที่รองรับได้แก่ CyberLink’s PowerDVD 10 MKII ส่วนกราฟิการ์ฟิกการ์ดที่รองรับ ทางเอ็นวิเดียได้ออกมาประกาศตามหลังว่าควรเป็นการ์ดในตระกูล Fermi (GeForce 400 Series) และสุดท้ายวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของฟังก์ชั่นและซอฟท์แวร์ NVIDIA 3DTV Play จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

25 Oct 2553 09:13 ผู้ชม: 2724
กาแล็กซี ปล่อย GeForce GTX460 WHDI กราฟิกการ์ดไร้สายตัวแรกของโลก
กาแล็กซี ปล่อย GeForce GTX460 WHDI กราฟิกการ์ดไร้สายตัวแรกของโลก

"กาแล็กซี" (Galaxy) จับเทคโนโลยี Wireless Home Digital ไร้สายลงสู่กราฟิกการ์ดตระกูล GeForce GTX460 ควบคู่การเชื่อมต่อแบบปกติ (DVI, HDMI) เพื่อตอบรับไอเดีย clever space-saving และ multi-room wireless HDTV connectivity เป็นหลัก              โดย "กาแล็กซี" ได้ตั้งชื่อให้กับกราฟิกการ์ดตัวนี้่ว่า GeForce GTX460 WHDI Edition ที่มาพร้อมสเปกภายในคือ ตัวการ์ดมาพร้อมชิปกราฟิก GF104 ที่มีสตรีมโปรเซสเซอร์อยู่ที่ 336 ยูนิต รองรับชุดคุณสมบัติกราฟิก DirectX 11. PhysX, CUDA, 3D Vision Surround และ 2-Way SLI              ในส่วนระบบ WHDI ที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามาในตัวการ์ดจะเป็นของ AMIMON โดยด้านหลังของตัวการ์ดบริเวณช่องเชื่อมต่อจอภาพ ทางผู้ผลิตจะทำการติดตั้งเสารับ-ส่งสัญญาณไร้สายไว้จำนวน 5 ต้น โดยมีความถี่ในการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ที่ประมาณ 5GHz รองรับ ในส่วนของอัตราความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลจะอยู่ที่ประมาณ 3Gbps ซึ่งถือว่ามีความเร็วค่อนข้างสูงมากจนสามารถรับ-ส่งภาพวิดีโอความละเอียดสูง 1080p (1,920x1080pixels) แบบไม่บีบอัดคุณภาพในระยะตั้งแต่ 30 เมตรขึ้นไปได้อย่างสบายๆ อีกทั้งระบบ WHDI ยังรองรับระบบป้องกันลิขสิทธิ์ของฟอร์แม็ต Blu-Ray (HDCP 2.0) และ DRM Content Streaming ได้อีกด้วย              นอกจากนั้นนอกจากตัวการ์ดจะรองรับระบบ WHDI แล้วตัวการ์ดยังรองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านช่อง DVI และ HDMI (High-Definition Multimedia Interface) และสุดท้าย Galaxy GeForce GTX460 WHDI Edition ยังมาพร้อมอุปกรณ์เราท์เตอร์รับสัญญาณด้วย              สำหรับเทคโนโลยี WHDI หรือ Wireless Home Digital เป็นเทคโนโลยีการรับส่งภาพและเสียงคุณภาพสูง (High Definition) แบบไร้สายผ่านคลื่นวิทยุความถี่สูง ซึ่งลักษณะการทำงานของระบบ WHDI จะมีการทำงานคล้ายๆ Wireless Lan คือรับและส่งสัญญาณภาพและเสียงคุณภาพสูงผ่านทางเสาอากาศออกไปยังอุปกรณ์ที่รองรับ โดยการออกแบบระบบ WHDI ทำขึ้นเพื่อตอบสนองคอนเซ็ป multi-room wireless HDTV connectivity เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับชมวิดีโอหรือไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ได้ทันทีโดยที่เราไม่ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์มัลติมีเดียหรือเชื่อมต่อสายสัญญาณใดๆ ทำให้เป็นการลดพื้นที่ในการจัดวางสิ่งของ และลดขั้นตอนการเชื่อต่อสายคอนเน็คเตอร์ต่างๆ อีกทั้งถ้าอุปกรณ์มัลติมีเดียหรือเครื่องรับโทรทัศน์ของผู้ใช้ที่ติดอยู่ภายในบ้านรองรับระบบดังกล่าวทั้งหมด ผู้ใช้ยังสามารถรับชมภาพและเสียงที่ต้องการได้จากทุกๆ ห้องโดยที่ไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องของการเชื่อมต่อผ่านสายที่วุ่นวายและมีข้อจำกัดเรื่องการขนย้ายแต่อย่างใด

11 Oct 2553 17:14 ผู้ชม: 1876
ทอร์ช ความหวังใหม่ของแบล็กเบอรี
ทอร์ช ความหวังใหม่ของแบล็กเบอรี

รีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม (RIM) เปิดตัวสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี ทอร์ช (Blackberry Torch 9800) วางตัวกลับมาสู้กับไอโฟนอีกยก หลังซุ่มยกเครื่องระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี 6 (Blackberry OS6) ให้สามารถใช้งานทัชสกรีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อมั่นเอสไอเอสกระจายสินค้าสู่ตลาดองค์กร              แดนนี่ โบลดุค ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทยและมาเลเซีย บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่นกล่าวว่า การเปิดตัวแบล็กเบอรี ทอร์ชในประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ 2 ในภูมิภาครองจากอินโดนีเชีย ซึ่งไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีการเติบโตสูงในระดับต้นๆ ริมจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก              "ผลประกอบการล่าสุดของ ริมสามารถจำหน่ายแบล็กเบอรีไปมากกว่า 50 ล้านเครื่องแล้วทั่วโลก มีอัตราการเติบโตกว่า 58% ซึ่งกว่า 52% มาจากการจำหน่ายนอกสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย"              ขณะเดียวกันมีความคืบหน้าในการร่วมมือกับทาง เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น ว่านอกจากจะให้มาดูในตลาดในต่างจังหวัดแล้ว ยังต้องการรุกเข้าไปในตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งเอสไอเอสมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้วด้วย              สำหรับ แบล็กเบอรี ทอร์ช เป็นเครื่องแรกในตระกูลที่ทำมาให้มีทั้งระบบทัชสกรีนและ คีย์บอร์ด QWERTY แบบสไลด์ด้านล่าง เพื่อคงจุดเด่นในการพิมพ์ข้อความของแบล็กเบอรี และเป็นรุ่นแรกที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี 6 ที่มีการพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ให้ดีขึ้นด้วย              ตัวเครื่องมาพร้อมกับจอสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 360 x 480 พิกเซล พร้อมคีย์บอร์ด QWERTY แบคไลท์ ออปติคอลแทร็กแพด หน่วยประมวลผล 624 MHz RAM 512 MB เมมโมรีภายใน 4 GB กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช รองรับการเชื่อมต่อไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส              โดยนายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เคยให้สัมภาษณ์ถึงช่วงราคาของแบล็กเบอรี ทอร์ชว่าน่าจะอยู่ในระดับ 2 หมื่นบาทขึ้นไป เพื่อวางตัวสู้กับไอโฟนอย่างเต็มตัว              ขณะเดียวกันทางริม ไม่สามารถเปิดเผยช่วงราคาได้ โดยให้แต่ละโอเปอเรเตอร์และดิสทริบิวเตอร์ เป็นผู้ประกาศราคา เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการชี้นำราคาในตลาด รวมไปถึงกลยุทธ์ในการทำตลาดต่างๆด้วย

04 Oct 2553 08:43 ผู้ชม: 2602
Hacked By Nubitol Indo
Hacked By Nubitol Indo

28 Dec 2015 16:30 ผู้ชม: 667
Lastest News
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C อย่างเป็นทางการ
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C อย่างเป็นทางการ

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟน ๆ แอปเปิลทั่วโลก หลังจากรอคอยและติดตามทั้งภาพหลุด ข่าวลือต่าง ๆ เกี่ยวกับ iPhone รุ่นใหม่กันมานานหลายเดือน ล่าสุด แอปเปิลประกาศเปิดตัว iPhone 5S (ไอโฟน 5S) และ iPhone 5C (ไอโฟน 5C) รุ่นราคาถูก อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 กันยายน เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่สำนักงานใหญ่ของแอปเปิล คูเปอร์ติโน เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา           งานนี้เรียกได้ว่าทำเอาแฟน ๆ ตะลึงไปตาม ๆ กันเพราะข้อมูลทั้งหมดที่ถูกเปิดเผยในงานเปิดตัวเกือบทั้งหมดตรงตามข่าวลือและภาพหลุดต่าง ๆ ทุกประการ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี แต่อย่างน้อยคนที่รอคอย iPhone รุ่นใหม่ ก็ได้สมหวังกันเสียที เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันว่า iPhone 5S และ iPhone 5C จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง iPhone 5S สีสันใหม่ สเปคแรงกว่าเดิม พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือiPhone 5SiPhone 5S          สำหรับสาวกแอปเปิลคนไหนที่กำลังโหยหานวัตกรรมใหม่ ๆ จากแอปเปิล ดูเหมือนครั้งนี้จะถูกตอบสนองดั่งใจแล้ว เมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone 5S ที่มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องเหมือนกับ iPhone 5 แต่เพิ่มสีสันใหม่อีก 2 สี ได้แก่ สีเงินและสีทอง ที่ช่วยเพิ่มความหรูหรามากขึ้น ส่วนสีดำยังมีเหมือนเดิม ด้านสเปคของ iPhone 5S เรียกได้ว่าจัดมาแบบเต็ม ๆ ใช้ชิป Apple A7 (28nm) ที่เป็นระบบ 64-bit ตัวแรกของโลก ที่มีความเร็วกว่า iPhone ทุกรุ่นถึง 40 เท่า ด้านระบบกราฟิกเร็วขึ้นมากถึง 56 เท่า, แรม 1GB พร้อมแฟลชคู่ Dual LED รวมถึงกล้องที่ปรับปรุงใหม่เพิ่มลูกเล่นอีกมากมาย และไฮไลท์เด็ดของ iPhone 5S ก็คื

11 Sep 2556 10:34 ผู้ชม: 2816
Hot News
ASUS โชว์ Tablet แปลงร่างได้ Eee Pad Transformer
ASUS โชว์ Tablet แปลงร่างได้ Eee Pad Transformer

มาอีกหนึ่งรุ่นแล้วกับ ASUS Eee Pad Transformer พร้อม OS สุดฮิตอย่าง Android ในเวอร์ชั่นล่าสุด Honeycomb ด้วยแพลตฟอร์ม Tegra 2 แบบเดียวกับ Xoom จุดเด่นที่แตกต่างด้วยคีย์บอร์ดแบบแยกร้างได้ (แบบเดียวกับ acer tab windows 7 นะละครับ) ซึ่งดูจากการออกแบบแล้วค่อนข้างลงตัวสวยงามเลยทีเดียว  

04 Mar 2554 10:02 ผู้ชม: 4728