รายละเอียดโปรแกรม : อัพเดทตัวใหม่ล่าสุด Internet Download Manager 6.05 Build 11 หรือ IDM 6.05 Build 11 - Final โปรแกรม Internet Download Manager หรือโปรแกรม IDM เป็นโปรแกรมช่วยเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เพลง ไฟล์หนัง ไฟล์เกมส์ ไฟล์คลิปวีดีโอ ไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ และไฟล์อื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต โปรแกรมสามารถแบ่งไฟล์ให้เป็นแพ็กเก็ตเล็ก ๆ แล้วดึงมาที่ละแพ็กเก็ตเพื่ออัพความเร็วในการดาวน์โหลดทำให้มีความเร็วเพิ่ม ขึ้นได้กว่า 500% และสามารถแสดงไอคอนบนเว็บเบราเซอร์เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งานได้ด้วย โดยเว็บเบราเซอร์ที่รองรับได้แก่ Netscape, MSN Explorer, AOL, Opera, Mozilla, Mozilla Firefox, Mozilla Firebird, Avant Browser และเว็บเบราเซอร์ MyIE2

YouTube Downloader เป็น Extension (ส่วนขยาย) สำหรับโปรแกรม Google Chrome ที่เพิ่มความสามารถให้เราดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube ได้ทันเลย ไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริมอย่าง Internet Download Manager นอกจากนั้น ยังสะดวกกว่าตรงที่เราสามารถกดเลือกความละเอียดที่จะดาวน์โหลดได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาให้วิดีโอโหลดมาก่อนแบบโปรแกรม IDM ความละเอียดที่ดาวน์โหลดได้ก็รองรับตั้งแต่ 240p, 360p, 480p, 720p และ 1080p เลยทีเดียว ความเร็วในการดาวน์โหลดก็ค่อนข้างดี ไม่ได้วิ่งเต็มความเร็ว แต่เราก็โหลดพร้อมกันหลาย ๆ ไฟล์ได้ สำหรับวิธีการติดตั้ง YouTube Downloader ก็ไม่ยากครับ กดเข้าเว็บ Web Store https://chrome.google.com/webstore?hl=en-US หรือจะเปิดเมนู Extension จากนั้นเลือก “Get More Extensions >>” เราก็จะเข้ามาที่หน้าดาวน์โหลด ให้พิมพ์หาว่า YouTube Downloader ที่ช่องค้นหาด้านขวาบน เมื่อเราได้ผลการค้นหาแล้วก็คลิกเข้าไปและกดติดตั้งได้เลยครับ หลังจากนั้นพอเปิดวิดีโอใน YouTube ก็จะมีปุ่ม Download ให้เลือกอยู่ด้านล่างวิดีโอแล้ว ก็คลิกเลือกความละเอียดที่ต้องการได้ตามใจเลยครับ Extension ตัวนี้น่าจะตอบสนองคนที่ชอบดาวน์โหลด YouTube บ่อย ๆ ได้ดีนะครับ

วันนี้จะมาแนะนำ 5 Add-On รักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน Mozilla Firefox กันครับ ซึ่งทั้งหมดสามารถโหลดมาใช้ได้ฟรีผ่านหน้า Add-On ของตัว Mozilla Firefox เองอยู่แล้วครับ มาลองโหลดมาใช้งานกันเลยดีกว่า HTTPS Everywhere เป็น Add-On ที่จะบังคับให้ Mozilla Firefox ของเราใช้โปรโตคอล HTTPS อยู่ตลอดเวลา เพื่อรักษาความปลอดภัยของเรา ตัวอย่างเว็บที่รองรับก็เช่น Google, Wikipedia, Twitter, Facebook และ PayPal Web of Trust เป็น Add-On ที่ให้ผู้ใช้โหวตกันว่าเว็บไหน “ผ่าน” เรื่องความปลอดภัย โดยเราสามารถกดให้คะแนน หรือจะเขียนอธิบายถึงลักษณะของเว็บนั้น ๆ ถ้าเว็บไหนถูกโหวตว่าไม่น่าไว้วางใจมาก ๆ เข้า Add-On จะมีการขึ้นคำเตือนมาก่อน ถ้ายังอยากดูภาพวับ ๆ แวบ ๆ ก็ค่อยเข้าไปได้ NoScript เป็น Add-On รักษาความปลอดภัยระดับเทพของ Mozilla Firefox เลยทีเดียว เพราะคนใช้ก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเว็บนิดนึง ไม่อย่างนั้นอาจจะงงว่าทำไมหน้าเว็บมันไม่ทำงาน เพราะ NoScript จะทำการปิดสคริปต์ออกไปเกือบทั้งหมด เป็นดาบสองคมดี ๆ นั้นเอง ใครอยากใช้ของดีก็ต้องศึกษากันบ้างแล้ว Ghostery เป็น Add-On ที่จะมาจัดการพวกเว็บที่มีการแอบเก็บข้อมูลการใช้งานของเราผ่านเบราว์เซอร์ อย่างเช่น พวก Google Analytics, Facebook หรือพวก Ap บ้าบอคอแตกทั้งหลายกว่า 400 รายการ มันดีในแง่ที่มันสามารถทำให้เราเปิด JavaScript สำหรับการใช้งานในส่วนอื่น ๆ ได้ BetterPrivacy เป็น Add-On ที่จะช่วยในการจัดการ Cookie โดยเฉพาะพวก Flash หรือ Local Storage Object ที่มันลบออกไม่หมด เราสามารถตั้งค่าให้มันลบไฟล์ตอนไหนก็ได้ตามที่เราต้องการ เป็นการรักษาความปลอดภัยให้เราเพิ่มเติมอีกระดับ Add-On ทั้ง 5 ตัวที่เอามานำเสนอนี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเองนะครับ Mozilla Firefox ถ้าหากไม่มี Add-On เสริมก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมายเป็นพิเศษ ใครได้ใช้หมาไฟแล้วยังไม่ได้เสริมเขี้ยวเล็บให้มัน ก็อย่าลืมลองโหลดมาใช้กันนะครับ

การทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในส่วนของการอ่านและบันทึกข้อมูลลงฮาร์ดดิสก์ ในระยแรกจะเป็นการบันทึกในลักษณะเรียงกันไปตลอดที่มีพื้นที่ว่างไฟล์ต่างๆ ในฮาร์ดดิสก์ก็จะเรียงต่อเนื่อง แต่เมื่อใช้งานนานเข้า การลบและบันทึกไฟล์หลายครั้ง  ก็จะทำให้เกิดช่องว่างในฮาร์ดดิสก์   Windows  ก็จะเขียนข้อมูลเรียงกันไปในพื้นที่ที่ไม่ต่อเนื่องกันตามพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์  ซึ่งจะทำให้หลายๆ ครั้งข้อมูลในไฟล์เดียวกันไม่ได้ถูกบันทึกอย่างต่อเนื่อง ทำให้การอ่านและการเขียนในครั้งต่อไปช้าลง  ดังนั้นเราจึงควรมีการจัดเรียงข้อมูลภายในฮาร์ดดิสก์ของเรา หรือที่เรียกว่า Disk Defragmenters เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ของเรา โปรแกรมที่ทำงานเฉพาะด้านนี้มีอยู่มากมาย วันนี้ผมจะมาเสนอแนะนำโปรแกรมที่ทำงานด้าน Disk Defragmenters ที่ดีที่สุด 5 โปรแกรม 5 โปรแกรม Disk Defragmenters ที่ดีที่สุด Auslogics Disk Defrag (Freeware) Auslogics Disk Defrag เป็นโปรแกรมที่ใช้จัดเรียงข้อมูลที่ใช้ง่าย และการทำงานของโปรแกรมจะเร็วมาก ในการจัดเรียงข้อมูล สามารถเลือกทำที่ตัวไดร์ฟ เลือกแบบทำแต่ละไฟล์หรือโฟลเดอร์  ทั้ง Auslogics ช่วยให้คุณสามารถกำหนดลำดับความสำคัญของของไฟล์ได้ และสามารถสั่งคอมพิวเตอร์ของคุณให้ปิดตัวลง  เมื่อขั้นตอนการจัดเรียงข้อมูลเสร็จสมบูรณ์  คุณสมบัตินี้เป็นประโยชน์ คือคุณต้องการให้สแกนและจัดระเบียบในขณะที่คุณกำลังนอนหลับในเวลากลางคืนได้  Auslogics Disk Defrag เป็นโปรแกรมที่ให้ใช้ฟรีและมีแบบ Portable หรือ แบบพกพาด้วย ดาวน์โหลด – http://www.auslogics.com/en/software/disk-defrag/ MyDefrag (Freeware) MyDefrag โปรแกรมจัดเรียงข้อมูล ตัวนี้เมื่อดูหน้าตาจะไม่สวย แต่มีดีตรงนี้ทำงานได้เร็วมาก โปรแกรมนี้จะกำจัดไฟล์ขยะที่มีอยู่ในเครื่องทิ้ง และจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ใหม่ โดยสามารถย้ายข้อมูลไปที่เหมาะสมบนฮาร์ดดิสก์ โปรแกรมมีความสามารถจัดกลุ่มไฟล์ที่คุณใช้บ่อย ไปไว้ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายบนฮาร์ดดิสก์ ดาวน์โหลด – http://www.mydefrag.com/Manual-DownloadAndInstall.html PerfectDisk ($29.99) Raxco PerfectDisk  เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการจัดเรียงข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ระดับมืออาชีพเลยทีเดียว มาพร้อมกับความสามารถในการจัดเรียงข้อมูลที่รวดเร็ว และยืดหยุ่น ซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าการใช้โปรแกรมที่มาพร้อมกับWindows เป็นไหนๆ อย่างเรื่องของการจัดเรียงข้อมูลที่ตามปกติคุณจะต้องสั่งจัดเรียงข้อมูลทั้งไดรฟ์ แต่ PerfectDisk สามารถให้คุณเลือกได้ว่าต้องการที่จะเรียงข้อมูลทั้งไดรฟ์หรือว่าเฉพาะส่วน โดยที่สามารถเลือกได้เลยว่าจะเรียงข้อมูลเฉพาะไฟล์ที่ต้องการ หรือแม้แต่ไฟล์ของระบบ ฟีเจอร์อื่นๆ ก็มีอย่างเช่นการตั้งเวลาในจัดเรียงข้อมูลอัติโนมัติเป็นประจำ ทั้งแบบทำทุกวัน ทำทุกสัปดาห์ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ใช้งานเครื่องแบบทั้งวัน ทั้งคื

คลื่นลูกใหม่แทนที่คลื่นลูกเก่า ล่าสุดไฟร์ฟ็อกซ์ (Firefox) ซอฟต์แวร์เปิดเว็บไซต์ดาวรุ่งของมูลนิธิมอสซิลาสามารถเขี่ยแชมป์เก่าจากไมโครซอฟท์อย่างไออี (Internet Explorer) ได้สำเร็จ ขึ้นแท่นเป็นเจ้าเว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมในยุโรปได้อย่างเป็นทางการ              ข้อมูลจากบริษัทวิจัย StatCounter ชี้ว่าตลอดเดือนธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา ปริมาณการใช้ไฟร์ฟ็อกซ์ในพื้นที่แถบยุโรปนั้นคิดเป็นสัดส่วน 38.11% เหนือกว่าไออีที่มีสัดส่วนราว 37.52% ถือเป็นครั้งแรกที่ไออีมีส่วนแบ่งการใช้งานที่น้อยกว่า              ซีอีโอ StatCounter นาม Aodhan Cullen เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นครั้งแรกที่ไออีถูกคู่แข่งเขี่ยกระเด็นออกจากบัลลังก์ โดยวิเคราะห์ว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ไออีอ่อนกำลังลงเป็นเพราะแรงเสริมจากโครม (Chrome) เว็บเบราว์เซอร์จากกูเกิล ที่สามารถขโมยส่วนแบ่งจากไออีไปได้ส่วนหนึ่ง ทำให้ไฟร์ฟ็อกซ์สามารถแซงหน้าไออีได้ง่ายขึ้นทั้งที่ส่วนแบ่งการใช้งานไฟร์ฟ็อกซ์ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตา              สำหรับอีกปัจจัยหนึ่ง StatCounter วิเคราะห์ว่าเป็นเพราะข้อตกลงระหว่างคณะกรรมาธิการยุโรปกับไมโครซอฟท์ ในการเสนอทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้เบราว์เซอร์ได้อย่างเสรี ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553              โครมนั้นสามารถครองตลาดส่วนแบ่งเว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมอันดับ 3 ในตลาดยุโรป สถิติคือ 14.58% เพิ่มขึ้นจาก 5.06% ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว              StatCounter ระบุว่ารวบรวมสถิติเหล่านี้มาจากการใช้งาน 15,000 ล้านเพจวิวต่อเดือนของประชากรยุโรปในเดือนธันวาคม (4,900 ล้านเพจวิวมาจากพื้นที่อเมริกาเหนือ) ทั้งหมดเป็นการรวบรวมโดย StatCounter Global Stats ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือเพื่อการวิจัยที่ StatCounter พัฒนาขึ้นเอง

 อะโดบี ออกผลิตภัณฑ์ใหม่รับกระแสแท็บแล็ต และอุปกรณ์พกพา หลังเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมเสพข้อมูลผ่านอุปกรณ์พกพามากขึ้น ออกชุดเครื่องมือ Adobe Creative Suite 5.5 ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างคอนเทนต์หลายแพลตฟอร์มพร้อมๆ กัน         วิคกี้ สกิ๊บ ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อะโดบี ซิสเต็มส์ กล่าวว่า เทรนด์ในสื่อออนไลน์ เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดผ่านออนไลน์ ซึ่งต้องการวิธีการวัดค่า ขณะที่ผู้บริโภคก็ต้องการประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการใช้งาน ส่งผลให้การเข้ามาของดิจิตอลมีเดีย จะช่วยตอบโจทย์ของทั้งนักการตลาด และผู้บริโภคได้         "การทำงานของ Adobe Creative Suite 5.5 จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างคอนเทนต์ให้แก่หลายๆ แพลตฟอร์มจากภายในชุดเครื่องมือได้ทันที ส่งผลให้ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการพัฒนาคอนเทนต์เฉพาะแต่ละแพลตฟอร์ม"       ขณะที่ฟรอสต์แอนซัลลิแวนด์ ให้ข้อมูลเมื่อต้นปีไว้ว่า ในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งานจากพีซี ให้กลายเป็นอุปกรณ์พกพา ซึ่งแท็บเล็ตจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภค และองค์กรธุรกิจเจริญเติบโต ทำให้อะโดบี ทำการอัปเกรดเวอร์ชันล่าสุดให้กลายเป็น Adobe Creative Suite 5.5 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เกิดเวอร์ชันย่อย จากเดิมที่การออกเวอร์ชันใหม่ของ อะโดบี จะเป็นในรูปแบบรุ่นใหม่เสมอ ไม่ใช่เวอร์ชันเสริมเช่นในครั้งนี้ เพราะ การเติบโตของอุปกรณ์พกพารุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต จึงจำเป็นต้องมีการเสริมประสิทธิภาพเครื่องมือให้นักพัฒนาสามารถนำไปใช้กับดิจิตอลมีเดียสมัยใหม่ได้       นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนรอบการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของอะโดบี ให้กลายเป็นทุกๆ 24 เดือน แทนที่จากเดิม 18 เดือน โดยใช้การออกเวอร์ชันเสริมระหว่างรอบการผลัดเปลี่ยนผลิตภัณฑ์เข้ามาแทนที่ เพื่อให้ตัวผลิตภัณฑ์มีความทันสมัยกับอุปกรณ์พกพารุ่นใหม่ที่ออกวางจำหน่าย       โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของเวอร์ชันนี้คือสื่อสิ่งพิมพ์หลายๆ แห่ง ที่ต้องการก้าวเข้าสู่ดิจิตอลมีเดียสามารถใช้งาน In Design ในการออกแบบและจัดหน้าหนังสือและนิตยสาร และยังสามารถนำชุดเครื่องมือ Folio Producer เพื่อส่งต่อคอนเทนต์ที่ผสมผสานทั้งไฟล์รูปภาพ และวิดีโอในแบบอินเตอร์แอคทีฟไปยังแพลตฟอร์มที่เป็นดิจิตอลมีเดียได้ทันที

YouTube Downloader เป็น Extension (ส่วนขยาย) สำหรับโปรแกรม Google Chrome ที่เพิ่มความสามารถให้เราดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube ได้ทันเลย ไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริมอย่าง Internet Download Manager นอกจากนั้น ยังสะดวกกว่าตรงที่เราสามารถกดเลือกความละเอียดที่จะดาวน์โหลดได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาให้วิดีโอโหลดมาก่อนแบบโปรแกรม IDM ความละเอียดที่ดาวน์โหลดได้ก็รองรับตั้งแต่ 240p, 360p, 480p, 720p และ 1080p เลยทีเดียว ความเร็วในการดาวน์โหลดก็ค่อนข้างดี ไม่ได้วิ่งเต็มความเร็ว แต่เราก็โหลดพร้อมกันหลาย ๆ ไฟล์ได้ สำหรับวิธีการติดตั้ง YouTube Downloader ก็ไม่ยากครับ กดเข้าเว็บ Web Store https://chrome.google.com/webstore?hl=en-US หรือจะเปิดเมนู Extension จากนั้นเลือก “Get More Extensions >>” เราก็จะเข้ามาที่หน้าดาวน์โหลด ให้พิมพ์หาว่า YouTube Downloader ที่ช่องค้นหาด้านขวาบน เมื่อเราได้ผลการค้นหาแล้วก็คลิกเข้าไปและกดติดตั้งได้เลยครับ หลังจากนั้นพอเปิดวิดีโอใน YouTube ก็จะมีปุ่ม Download ให้เลือกอยู่ด้านล่างวิดีโอแล้ว ก็คลิกเลือกความละเอียดที่ต้องการได้ตามใจเลยครับ Extension ตัวนี้น่าจะตอบสนองคนที่ชอบดาวน์โหลด YouTube บ่อย ๆ ได้ดีนะครับ